การใช้เทคโนโลยี
โรงเรียนสอนนักเรียนให้ใช้เทคโนโลยีอย่างรอบคอบและมีความสมดุล โดยมีเป้าหมายในการช่วยส่งเสริม Transferable skill ซึ่งเป็นทักษะที่นำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย และเสริมสร้างความรู้ทางเทคโนโลยีที่จำเป็นต้องใช้ในการรับมือกับความท้าทายในอนาคต โรงเรียนมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วิธีการสอน และหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักเรียนได้ค้นพบวิธีการใหม่ๆ ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ในการทำงานและในชีวิตประจำวัน
เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยทั่วไป ดังนั้นความต้องการด้านการศึกษาของนักเรียนจึงเปลี่ยนแปลงไปด้วย อำนวยศิลป์มุ่งศึกษางานวิจัยใหม่ๆ เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในห้องเรียนอย่างต่อเนื่อง และเราพยายามที่จะบูรณาการเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อยกระดับการเรียนรู้และทักษะต่างๆ ของนักเรียน
การเป็นพลเมืองดิจิทัล
โรงเรียนได้กำหนดความหมายของการเป็นพลเมืองดิจิทัล ดังนี้
โรงเรียนจะนำคำจำกัดความดังกล่าวนี้ไปแจ้งให้นักเรียนทราบและพัฒนาร่วมกับนักเรียนในรูปแบบที่เหมาะสมกับวัย โดยผ่านหลักสูตรการเป็นพลเมืองดิจิทัลในโรงเรียน และอิงตามกรอบความคิดของ Common Sense UK
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ICT มีหน้าที่ดูแลส่งเสริมการเป็นพลเมืองดิจิทัลของสมาชิกทุกคนในโรงเรียน โดยใช้เวลาในการประชุมบุคลากร และช่วงปฐมนิเทศบุคลากร ในการอัปเดตข้อควรปฏิบัติและการพัฒนาใหม่ๆ เกี่ยวกับการเป็นพลเมืองดิจิทัล และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการศึกษาให้บุคลากรได้ทราบ รวมทั้งจัดกิจกรรม Workshop สำหรับผู้ปกครองเป็นประจำ โดยมีหัวข้อต่างๆ เช่น การกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต, Google Domain, การใช้อุปกรณ์ IT และการดูแลเด็กๆ ให้ปลอดภัยในโลกออนไลน์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ปกครองจะดูแลและส่งเสริมการเป็นพลเมืองดิจิทัลที่บ้านเช่นเดียวกัน
Google Workspace เพื่อการศึกษา
บุคลากรและนักเรียนของอำนวยศิลป์ใช้ประโยชน์จาก Google Workspace for Education Suite และแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Google เพื่อเป็นเครื่องมือในการปลูกฝังคุณลักษณะที่ดีของนักเรียน ค่านิยมของโรงเรียนอำนวยศิลป์ และการเป็นพลเมืองดิจิทัล
บุคลากรและนักเรียนทุกคนได้รับการฝึกอบรมการใช้งานชุดโปรแกรม Google Workspace for Education โดยใช้เป็นวิธีหลักในการทำงานออนไลน์ ทั้ง Gmail, Google Document, Google Drive, Google Calendar และสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เสมือนจริงของ Google Classroom
การใช้อุปกรณ์สื่อสารส่วนตัวของนักเรียน (BYOD)
นักเรียนโรงเรียนอำนวยศิลป์ทุกคนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไปจะต้องนำอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้สำหรับการเรียนมาโรงเรียนเอง อุปกรณ์ที่เราเลือกใช้คือแล็ปท็อปที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด ได้แก่ ฮาร์ดไดรฟ์ SSD, Google Chrome, Windows หรือ Mac, คีย์บอร์ดในตัว, กล้องหน้าและลำโพง
อุปกรณ์การสื่อสารจะช่วยให้นักเรียนเข้าถึงหลักสูตรที่ปรับปรุงใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเป็นเครื่องมือเสริมการเรียนรู้ การมีอุปกรณ์ครบพร้อมจะทำให้นักเรียนได้รับโอกาสจากเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่เอื้อประโยชน์แก่ผู้เรียนและยกระดับการเรียนรู้ เราเชื่อว่าการใช้อุปกรณ์สื่อสารส่วนตัวของนักเรียน จะส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะที่จำเป็น ได้แก่ การสื่อสารที่ซับซ้อน การรู้เท่าทันสื่อใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งการเรียนรู้ด้วยตนเอง หรือการเรียนรู้อย่างอิสระ
การใช้อุปกรณ์สื่อสารส่วนตัวของนักเรียนได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นเมื่อมีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างเทคโนโลยี Cloud และสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เสมือนจริง เช่น Google Classroom เป็นต้น
อุปกรณ์ IT
อำนวยศิลป์มุ่งมั่นในการเป็นโรงเรียนที่มีความคิดก้าวหน้า ซึ่งใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อส่งเสริมการจัดหลักสูตรและพัฒนาทักษะของนักเรียน โรงเรียนได้นำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้มากมาย ตั้งแต่กระดานไวท์บอร์ดแบบอินเทอร์แอกทีฟ และ WIFI ความเร็วสูง ไปจนถึง iPad BYOD และการใช้ Google Workspace for Education เพื่อสร้างหลักสูตรการเรียนรู้แบบผสมผสาน ที่ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้และใช้ทักษะดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับโลกสมัยใหม่ เนื่องจากนักเรียนของเราสามารถเข้าถึงโลกดิจิทัลได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้วิธีการจัดการชีวิตในโลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนทุกคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยในโรงเรียน ส่วนงาน IT ของโรงเรียนอำนวยศิลป์ได้ติดตั้งไฟร์วอลล์และตัวกรองความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและเป็นอันตรายได้ นักเรียนจะไม่สามารถเข้าใช้โซเชียลมีเดียได้
นวัตกรรมดิจิทัล
ที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ เราให้ความสำคัญกับนวัตกรรมดิจิทัล และมั่นใจว่าเราเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยยกระดับการเรียนรู้
เราแสวงหาวิธีที่จะนำศักยภาพของ Google Workspace for Education มาใช้ให้เกิดประโยชน์อยู่เสมอ และมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Artificial Intelligence (AI) Augmented Reality (AR) และ Virtual reality (VR) เพื่อทำให้การเรียนรู้มีชีวิตชีวาและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และยังช่วยให้เด็กๆ มีทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคตอีกด้วย